จริงอยู่ที่ว่าภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกัน) คล้ายกับเป็นภาษากลางของประเทศ แต่ทราบมั้ยคะว่ากว่า 25% ของประชากรใช้อีกภาษาหนึ่งนอกจากอังกฤษเป็นภาษาหลักด้วย ซึ่งภาษาที่ 2 ที่ใช้กันมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศก็คือภาษาสเปนค่ะ ไปทำงานที่ไหนก็มีโอกาสเจอเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวเม็กซิกันหรือชาวชาติอื่นๆ ที่ใช้ภาษาสเปนเป็นหลักแน่นอน เด็กเวิร์กรุ่นก่อนๆ ส่วนมากก็จะได้ภาษาสเปนติดตัวกันกลับมา
จากแผนที่นะคะ ภาษาสเปนในสหรัฐอเมริกา:
สีน้ำเงินเข้ม: ประชากรในรัฐมากกว่าร้อยละ 28 พูดภาษาสเปนที่บ้านของตน
สีน้ำเงิน: ประชากรในรัฐมากกว่าร้อยละ 12.2 พูดภาษาสเปนที่บ้านของตน (ค่าเฉลี่ยของสหรัฐอเมริกา)
สีฟ้า: ประชากรในรัฐมากกว่าร้อยละ 3 พูดภาษาสเปนที่บ้านของตนรัฐ
ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาหลักรองจากภาษาอังกฤษค่ะ จะเห็นว่าจาก 50 รัฐในประเทศนั้น มีรัฐที่ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาที่ 2 มากถึง 43 รัฐค่ะ ส่วนอีก 7 รัฐนั้น ใช้ภาษาที่ 2 ดังนี้
รัฐอะแลสก้า (AK) ใช้ภาษายูปิค (ภาษาหนึ่งของชาวเอสกิโม)
รัฐฮาวาย (HI) ใช้ภาษาตากาล็อก (ภาษาฟิลิปปินส์)
รัฐนอร์ธดาโกต้า (ND) ใช้ภาษาเยอรมัน
รัฐหลุยส์เซียน่า (LA), เวอร์มอนต์ (VT), นิวแฮมเชียร์ (NH), เมน (ME) ใช้ภาษาฝรั่งเศส
ฉะนั้นนอกจากจะได้ฝึกภาษาอังกฤษที่เป็นสื่อกลางหลักในการสื่อสารแล้ว ยังมีโอกาสสูงที่จะได้ภาษาที่สองกลับมาด้วย
แต่... สิ่งดีๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้
ถ้าตัดภาษาสเปนออกไป (เพราะบางเมืองพูดสเปนกันมากกว่าอังกฤษด้วยซ้ำ) เรายังสามารถเก็บตกภาษาที่ 3 กลับมาได้ด้วยค่ะ
นอกจากรัฐอะแลสก้า (AK) ที่ใช้ภาษาพื้นเมืองแล้ว ยังมีรัฐอริโซน่า (AZ) และรัฐนิวเม็กซิโก (NM) ที่มีประชากรจำนวนมากใช้ภาษานาวาโฮ และรัฐเซาธ์ดาโกต้า (SD) ที่ใช้ภาษาดาโกต้า ซึ่งต่างเป็นภาษาของชาวพื้นเมืองอเมริกัน หาเรียนที่อื่นแทบไม่ได้แล้วนะคะ
ส่วนภาษาตากาล็อกนอกจากที่ฮาวาย (HI) แล้ว ยังเจอได้เยอะที่รัฐแคลิฟอร์เนีย (CA) และรัฐเนวาด้า (NV) เพราะมีชาวฟิลิปปินส์ไปตั้งถิ่นฐานที่นั่นเยอะใช้ได้ และนักศึกษาฟิลิปปินส์ก็นิยมไปฝึกงานช่วงปิดเทอมแถวนั้น
อีกภาษาหนึ่งในอาเซียนที่มีจำนวนผู้ใช้มากก็คือภาษาเวียดนามค่ะ ทั้งในรัฐวอชิงตัน (WA), เนบราสก้า (NE), โอคลาโฮม่า (OK), และเท็กซัส (TX)
สำหรับ
ภาษาฝรั่งเศสนั้นจะใช้มากในแถบชายฝั่งตะวันออกค่ะ นอกจาก 4 รัฐที่บอกไปแล้วก็มี รั
ฐคอนเน็ตทิคัต (CT), เดลาแวร์ (DE), แมรี่แลนด์ (MD), เวสต์เวอร์จิเนีย (WV), นอร์ธแคโรไลน่า (NC), เซาธ์แคโรไลน่า (SC) และอีกรัฐที่ลึกเข้ามาหน่อยแต่อยู่ติดกับหลุยส์เซียน่าก็คือ
รัฐมิสซิสซิปปี (MS) ส่วนที่
รัฐฟลอริด้า (FL) นั้นจะใช้ภาษาฝรั่งเศสที่ต่างออกไปจากปกติ ประมาณว่าฝรั่งเศสผสมอังกฤษผสมสเปน เป็นสไตล์ของตัวเองมากค่ะ
ภาษาที่ใกล้เคียงกับฝรั่งเศสอย่างอิตาเลียนนั้น เจอได้ที่รัฐเพนน์ซิลเวเนีย (PA) และนิวเจอร์ซี่ (NJ) ค่ะ ส่วนภาษาโปรตุเกสเพื่อนบ้านของสเปนก็เจอได้ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ (MA) และโรดไอแลนด์ (RI) ค่ะ นอกจากนี้ก็มีภาษารัสเซียที่รัฐโอเรกอน (OR)
ภาษาเอเชียยังเจอได้อีกในหลายรัฐเช่นกันค่ะ ภาษาเกาหลีพบได้ที่รัฐเวอร์จิเนีย (VA) และจอร์เจีย (GA) ซึ่งมีประชากรเกาหลีเยอะสูสีกับวอร์ชิงตันและแคลิฟอร์เนียเลย ส่วนภาษาจีนต้องที่นี่เลยค่ะรัฐนิวยอร์ก (NY) แค่ในไชน่าทาวน์ก็อลังการสุดยอดแล้ว นอกจากนี้ยังมีภาษาอาหรับที่รัฐมิชิแกน (MI) อีกด้วย และที่น่าตกใจสุดๆ (สำหรับพี่) ก็คือภาษาม้งค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยว่ามีชาวม้งอพยพไปอยู่ที่รัฐมินเนโซต้า (MN) มากจนติดมาเป็นภาษาอันดับ 3 ของรัฐนี้เลย แม้ว่าจะเป็นส่วนน้อยนิดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (แบบอังกฤษ 85%, สเปน 10% แล้วก็ม้ง 2% อื่นๆ 3% อันนี้เลขพี่สมมติให้เห็นภาพเฉยๆ นะคะ ไม่ไช่สถิติจริง)
ส่วนสีเขียวที่เห็นเยอะๆ ในแผนที่คือภาษาเยอรมันที่พบได้มากถึง 16 รัฐ นอกจากนอร์ธดาโกต้าแล้วก็มีรัฐมอนทาน่า (MT), ไอดาโฮ (ID), ไวโอมิ่ง (WY), ยูทาห์ (UT), โคโลราโด (CO), แคนซัส (KS), วิสคอนซิน (WI), ไอโอวา (IA), มิสซูรี (MO), อินเดียน่า (IN), โอไฮโอ (OH), เคนทักกี (KY), เทนเนสซี (TN), อาร์คันซอ (AR), และอะลาบามา (AL) โดยมีรัฐอิลลินอยส์ (IL) ที่เป็นรัฐเดียวที่ใช้ภาษาโปแลนด์มากเป็นอันดับ 3 อยู่ตรงกลางพอดี
หมายเหตุ: น้องๆ อาจสงสัยว่าทำไมภาษาจีนติดอันดับอยู่แค่ในรัฐเดียว ทั้งที่คนจีนเป็นชาวเอเชียที่มีมากที่สุดในสหรัฐ นั่นก็เพราะว่าชาวจีนส่วนมากอยู่รวมกันที่นิวยอร์ก ส่วนที่เหลือก็กระจายๆ กันไป แต่เมื่อดูทีละรัฐแล้ว สัดส่วนประชากรเชื้อสายจีนในแต่ละรัฐยังน้อยกว่าเชื้อชาติอื่นค่ะ บางรัฐยังน้อยกว่าจำนวนประชากรเชื้อสายเกาหลีด้วยซ้ำ
เห็นมั้ยคะว่าสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีความหลากหลายมากขนาดไหน และแม้ว่าจะมีคนจากหลายชาติหลายภาษาไปอยู่ที่นั่น คนส่วนมากก็ยังรักษาเอกลักษณ์ของเชื้อชาติตนเอาไว้ได้อยู่ อันที่จริงมีมากกว่า 300 ภาษาอีกนะคะที่เป็นภาษาที่ใช้กันในครอบครัว แต่หลักๆ แล้วจะใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน และภาษาเยอรมันค่ะ ใครที่ยังลังเลว่าอยากเรียนภาษาตะวันตกไหนดีเป็นภาษาที่ 3 อ่านแล้วน่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ