วันนี้ มีเคล็ดไม่ลับ สำหรับ "10 เทคนิคการใช้ชีวิตอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ให้มีความสุข" มาฝากให้น้องๆได้นำไปปรับใช้กันค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเล้ย ^^
1. รักษามารยาทที่ดี
ใครๆก็ชอบคนมีมารยาท เชื่อว่าทุกคนคงไม่เถียงและอาจคิดในใจว่า "มันก็ต้องอยู่แล้ว! ใครจะไปทำมารยาทเสียใส่คนที่เราต้องไปอาศัยบ้านเขาอยู่กันล่ะพี่?" แต่จุดนี้อยากจะเตือนกันเอาไว้นิดนึงค่ะว่า สิ่งที่เรียกว่า "มารยาทที่ดี" นั้นอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรมได้ ดังนั้นสิ่งที่อยากจะแนะนำให้ทำก่อนก็คือ เราควรศึกษาหาข้อมูลล่วงหน้าเสียหน่อยเกี่ยวกับกิริยามารยาทต่างๆในประเทศที่เรากำลังจะเดินทางไปค่ะ
อย่างเช่น วัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นเมื่อจะเข้าบ้านมักจะถอดรองเท้าก่อน และจัดวางรองเท้าไว้ในลักษณะที่หันออกไปหาประตู (แบบที่สามารถใส่เดินออกไปได้ทันที) ซึ่งหากเราไปถึงบ้านของโฮสต์ฯแล้วทำเองโดยที่ไม่ต้องรอให้เขาบอก ก็จะสร้างความประทับใจแรกที่ดีให้กับครอบครัวชาวญี่ปุ่น และทำให้เขาเอ็นดูเรามากขึ้นได้ค่ะ ^^
2. ไม่ต้องกลัวที่จะถามคำถาม
หากว่าเราไม่แน่ใจว่าเราควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร หรือไม่รู้ว่าจะต้องทำสิ่งนั้นอย่างไร สิ่งที่ควรทำที่สุุดก็คือถามออกไปเลยค่ะ! ดีกว่ามานั่งกลุ้มใจอยู่คนเดียว หรือฝืนทำไปแบบผิดๆ เพราะบางครั้งมันก็ก่อให้เกิดความเสียหายได้ ซึ่งถึงตอนนั้นคำถามหนึ่งที่จะโดนย้อนกลับมาก็คือ "แล้วทำไมไม่ถาม?" ใช่มั้ยล่ะคะ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องเขิน ไม่ต้องอาย กล้าๆหน่อยแล้วถามออกไปเลยค่ะ! ถามเอาให้เราเข้าใจจริงๆ เราจะได้ทำถูกต้อง ^^
3. พยายามสื่อสาร
ถึงแม้ว่าเราอาจจะใช้ภาษานั้นๆยังไม่เก่ง อาจจะมีตะกุกตะกักบ้างอะไรบ้าง แต่นี่เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ภาษาของเราพัฒนาขึ้นได้ค่ะ ก็แหม... เรามาก็เพื่อที่จะเรียนรู้และพัฒนาภาษาของเราไม่ใช่เหรอคะ หากว่าเราไม่ยอมพยายามใช้ภาษาแล้วจะเก่งขึ้นได้ยังไงล่ะจริงมั้ย ใช้ไปเถอะค่ะ ผิดหรือถูกจะได้รู้ คิดคำศัพท์อะไรไม่ออกก็พยายามอธิบายกันไป เล่าให้โฮสต์แฟมิลี่ฟังว่าที่โรงเรียนเราเป็นอย่างไรบ้าง ที่บ้านเกิดเราเป็นอย่างไรบ้าง อะไรอย่างนี้ก็ได้ค่ะ การหาเรื่องพูดคุยกัน นอกจากจะได้ฝึกภาษาแล้วยังทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้นด้วย
4. พูดคุยเปิดใจเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
ถ้าหากมีอะไรที่เป็นปัญหาสำหรับเรา ไม่ต้องกลัวที่จะพูดถึงมันค่ะ อย่าทิ้งปัญหาไว้ให้ค้างคาจนเราทนไม่ไหว หรือเก็บกดเอาไว้แล้วมานั่งเป็นทุกข์อยู่คนเดียว ทางที่ดีก็คือควรใช้น้ำเสียงที่สุภาพ พยายามพูดคุยและอธิบายเกี่ยวกับปัญหา หรือความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น และพยายามที่จะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทั้งสองฝ่ายไปพร้อมๆกัน
นอกจากนี้ในทางกลับกัน เราเองก็ควรจะทำให้โฮสต์แฟมิลี่ได้รับรู้ว่า พวกเขาสามารถที่จะพูดคุยกับเราได้เสมอหากว่าเราทำสิ่งใด ที่อาจเป็นการก่อให้เกิดปัญหาหรือทำให้ทางนั้นไม่สบายใจค่ะ ซึ่งควรรีบบอกตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อที่ทั้งเราและพวกเขาจะได้เข้าใจตรงกันตั้งแต่ต้น
5. ใช้เวลาในการเรียนรู้เกี่ยวกับโฮสต์แฟมิลี่ของเรา
ลองศึกษาดูว่าครอบครัวโฮสต์ของเราทำอะไรกันบ้างในแต่ละวัน เช่น พวกเขาตื่นนอนกันประมาณกี่โมง และเข้านอนกันตอนกี่โมง รับประทานอาหารกันตอนไหน หรือทำอะไรที่ทำอยู่เป็นประจำทุกวันบ้าง เพื่อที่เราจะได้ปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรประจำวันเหล่านั้นนั่นเองค่ะ อย่างมารับประทานอาหารให้ตรงเวลาที่ครอบครัวจะทานกัน หรือเมื่อรู้ว่าช่วงเวลาไหนที่พวกเขาเข้านอนกัน เราก็จะได้ไม่ไปรบกวนพวกเขาเวลานั้นนั่นเอง
6. ทำตัวให้เป็นประโยชน์ ช่วยเหลืองานบ้านเท่าที่ทำได้
สุภาษิตไทยว่าไว้ "อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย..." อะไรที่เราทำได้ก็ควรที่จะเสนอตัวช่วยเหลือ เช่น ล้างจาน เช็ดจาน ช่วยจัดโต๊ะอาหาร เอาขยะไปทิ้งที่ถังหน้าบ้าน เอาผ้าใช้แล้วไปใส่เครื่องซักให้ เป็นต้น หรืออาจจะทำตัวให้เป็นประโยชน์โดยการไม่ไปเพิ่มภาระให้กับพวกเขา เช่น ทำห้องของตัวเองให้สะอาดและเป็นระเบียบอยู่เสมอ และระมัดระวังไม่สร้างความสกปรกให้กับส่วนอื่นๆของบ้าน เท่านี้ก็เป็นการช่วยในส่วนของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
7. ใช้เวลาอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ของเรา
อย่าอยู่คนเดียวในห้อง ต้องออกมาทำกิจกรรมและใช้เวลาร่วมกันกับครอบครัวโฮสต์บ้าง เช่นอาจจะเข้าร่วมกิจกรรมที่ครอบครัวชอบทำกัน จะได้มีช่วงเวลาที่ดีๆ ที่สนุกสนานร่วมกัน ทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เรียนรู้ภาษา และมีหัวข้อสนทนาที่ดีสำหรับพูดคุยกับครอบครัวโฮสต์ด้วย
แต่เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าอยากจะพัก เราก็แค่อธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่าเราเหนื่อย (จะได้ไม่เข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นคนขี้เกียจหรืออะไรอย่างนั้น) หรือถ้าเราไม่ชอบกิจกรรมที่ครอบครัวนั้นชอบทำ เราก็อธิบายให้เขาฟังไปตรงๆ จะได้หลีกเลี่ยงปัญหากันไปค่ะ
8. แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศของเรา
การที่โฮสต์แฟมิลี่เลือกที่จะรับนักเรียนแลกเปลี่ยนไปอยู่ด้วยนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ต้องการให้เราไปเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆเพียงอย่างเดียว เพราะในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของเราด้วยเหมือนกัน (ถึงใช้คำว่า "แลกเปลี่ยน" ยังไงล่ะคะ ^^) โดยเราอาจจะเตรียมรูปภาพของครอบครัวและบ้านเกิดไปแชร์กับโฮสต์แฟมิลี่ก็ได้ หรือเราอาจจะเตรียมหัดทำอาหารไทยไป แล้วไปทำให้โฮสต์แฟมิลี่ชิม (ส่วนใหญ่ต่างชาติจะชอบอาหารไทยสุดๆเลยค่ะ แต่เราต้องทำให้อร่อยๆด้วยนะ 555+) หรือใครที่เตรียมของขวัญที่เป็นของไทยๆไปฝากด้วยยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ ^^
9. อย่าคาดหวังว่าโฮสต์จะต้องทำให้เราทุกอย่าง
ถึงแม้ว่าเราจะต้องพึ่งพาโฮสต์ในบางเรื่อง แต่บางเรื่องที่เราสามารถทำเองได้ก็ควรช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุดค่ะ (และการช่วยเหลือตัวเองก็เป็นสิ่งที่โฮสต์จะคาดหวังจากเราด้วย) บางคนอาจจะเคยเห็นโฮสต์แฟมิลี่ของคนอื่น พาไปเที่ยวที่นั่นที่นู่นที่นี่ แล้วก็เลยคิดว่าโฮสต์ของเราจะพาเราไปบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ควรคาดหวังค่ะ หากว่าเราอยากจะท่องเที่ยวจริงๆ ก็อาจจะหาข้อมูลและเส้นทางการเดินทางไปสถานที่แห่งนั้นเอง อาจจะถามจากโฮสต์ได้ว่าเดินทางไปอย่างไรได้ มีรถประจำทางสายไหนผ่านบ้างเท่านั้น แต่สุดท้ายแล้ว ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุดค่ะ
10. ยิ้ม!
เราคนไทย และประเทศไทยก็เป็น "สยามเมืองยิ้ม" อยู่แล้ว! นี่จึงนับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเราที่เราควรรักษาไว้ค่ะ ใครๆก็ต้องชอบคนที่มีรอยยิ้มมากกว่าคนที่ทำหน้าบึ้งตึงอยู่ตลอด จริงมั้ยล่ะคะ ^^ และการยิ้มก็เป็นการแสดงความเป็นมิตร เป็นการผูกสัมพันธ์กับผู้คนได้อย่างไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ที่สำคัญคือเราต้องไม่ลืมว่าโฮสต์แฟมิลี่เป็นผู้อนุญาตให้เราได้อยู่ด้วย และคอยดูแลเราที่มาอยู่ต่างเมืองด้วยตัวคนเดียว เราจึงต้องแสดงความขอบคุณพวกเขาให้ได้มากที่สุด เวลาที่เกิดความไม่พอใจอะไรก็พยายามมองข้ามสิ่งที่เราไม่ชอบนั้น และคอยนึกถึงน้ำใจที่เขามีต่อเราไว้ ก็จะช่วยให้เราผ่านพ้นมันไปได้ค่ะ
และนั่นก็เป็น 10 เทคนิคการใช้ชีวิตอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่แบบที่ไม่ยากไม่ง่าย แต่เชื่อว่าทำได้กันทุกคนแน่ๆค่ะ ^^